หรือน้ำตาลนั้นคือผู้ร้ายตัวจริง?
“น้ำตาล” เรารู้จักสิ่งนี้มากแค่ไหนกัน
1.น้ำตาลเป็นคาร์โบไฮเดรท
ตามตำราน้ำตาล เป็นชื่อเรียกทั่วไปของคาร์โบไฮเดรตชนิดละลายน้ำ และมีรสหวาน ส่วนใหญ่ใช้ประกอบอาหาร
มีหลายแบบตามชนิดของโพลิเมอร์ เช่น กลูโคส จัดเป็นน้ำตาลสายเดี่ยว(โมโนแซคคาไรด์) ซูโครสเป็นน้ำตาลสายคู่(ไดแซคคาไรด์)
2.ความเสื่อมอันเนื่องมาจากน้ำตาล
น้ำตาลเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะมีคุณสมบัติในการเชื่อมตัวเองเข้ากับสารพวกโปรตีน ไขมันและเนื้อเยื่ออื่นๆในร่างกายผ่านกระบวนการที่เรียกว่า กระบวนการไกลเคชั่น(Glycation) ทำให้สิ่งที่ถูกน้ำตาลไปเชื่อมนั้น เสียคุณสมบัติบางอย่างไป เราเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า Advance glycation end product(AGEs) ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการอักเสบเกิดขึ้นมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น เม็ดเลือดแดง(hemoglobin) ก็จะกลายเป็น Glycated hemoglobin หรือที่เวลาเราตรวจน้ำตาลสะสม(HbA1C) หรือ ไลโพโปรตีน LDL โดยเฉพาะ small dense LDL ที่ไหลอยู่ในหลอดเลือด สามารถเกิดกระบวนการ Glycation ได้ง่าย แล้วถูกเซลล์เม็ดเลือดขาวบริเวณหลอดเลือดเก็บไปทำลายผ่านกระบวนการ oxidation เนื่องจากตับเองก็ไม่สามารถทำลาย LDL พวกนี้ได้เนื่องจากหน้าตา LDL มันเปลี่ยนไป กลายเป็นภาระของหลอดเลือดที่ต้องมาคอยเก็บพวกนี้แทน ลองนึกภาพขนมปังปิ้ง ขนมปังก็เปรียบเสมือนหลอดเลือด ที่โดนความร้อนผ่านกระบวนการ oxidation ของ AGEs นานๆไปก็จะไหม้ กรอบ ขาดความยืดหยุ่น เป็นสาเหตุของหลอดเลือดอุดตันตามที่ต่างๆ
สรุปก็คือ น้ำตาลในเลือดที่มากเกินไปนานๆ จะทำให้เกิดของเสียในร่างกายตามมาเยอะแยะ ก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมาเป็นพรวนและวิถีชีวิตของคนปัจจุบันส่วนใหญ่ก็กำลังเร่งอายุของเราให้สั้นลงด้วยการบริโภคน้ำตาลกันเยอะซะด้วยส