Fraud Blocker

เบาหวาน อันตราย! 10 วิธี ลดน้ำตาลในเลือด ฉบับเร่งด่วน ด้วยอาหารคนเป็นเบาหวาน

ลดน้ำตาลในเลือด-หมอแบงค์-เลิกเป็นเบาหวาน

เบาหวาน อันตราย! 10 วิธี ลดน้ำตาลในเลือด ฉบับเร่งด่วน ด้วยอาหารคนเป็นเบาหวาน

เบาหวานภัยเงียบที่ต้องระวัง

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือที่เรียกกันว่าภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคเบาหวานและภาวะก่อนเบาหวาน ภาวะก่อนเบาหวานคือเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูง แต่ไม่สูงพอที่จะจัดเป็นโรคเบาหวานได้

โดยปกติแล้ว ร่างกายของคุณจะจัดการระดับน้ำตาลในเลือดโดยสร้างอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เซลล์ของคุณสามารถใช้น้ำตาลที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดได้ อินซูลินถือเป็นตัวควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดและนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

สาเหตุภายในและภายนอกของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

สาเหตุภายในได้แก่ เมื่อตับของคุณผลิตกลูโคสมากเกินไป ร่างกายของคุณสร้างอินซูลินได้น้อยเกินไป หรือร่างกายของคุณไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ซึ่งเรียกว่าดื้อต่ออินซูลิน) ส่วนสาเหตุภายนอกนั้นได้แก่ การเลือกทานอาหาร, การใช้ยาบางชนิด, การไม่ออกกำลังกาย และความเครียด

การจัดการระดับน้ำตาลในเลือดมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างเรื้อรังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลต่ออวัยวะสำคัญและคุกคามชีวิตได้

เรามี 10 วิธีง่าย ๆ และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาช่วยคุณดูแลระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเป็นธรรมชาติ

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยให้คุณบรรลุและรักษาน้ำหนักตัวที่ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งเพิ่มความไวต่ออินซูลินให้กับร่างกาย

  • ความไวต่ออินซูลินที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าเซลล์ของคุณสามารถใช้น้ำตาลในกระแสเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การออกกำลังกายยังช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงาน
  • การออกกำลังกายที่แนะนำ ได้แก่ การเดินเบา ๆ หรือการฝึกความต้านทานง่าย ๆ อย่างสควอทหรือการยกขา รวมถึงรูปแบบการออกกำลังกายที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ อย่างการยกน้ำหนัก, การเดินเร็ว, การวิ่ง, การปั่นจักรยาน, การเต้นรำ, การเดินป่า, การว่ายน้ำ และอื่น ๆ

สรุป: การออกกำลังกายเพิ่มความไวต่ออินซูลินและช่วยให้กล้ามเนื้อใช้กลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

2. ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ทานเข้าไป

ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่คุณรับประทานมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เพราะร่างกายของคุณย่อยสลายคาร์โบไฮเดรตที่คุณทานเป็นกลูโคส ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงขึ้น ดังนั้น การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

  • วิธีการ:
    • เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: เน้นทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช ถั่ว และผัก คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะย่อยช้ากว่าและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้นช้าลง
    • จำกัดคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการ: หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการ เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว น้ำอัดลม และขนมหวาน คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ย่อยเร็วและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
    • ทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม: ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมสำหรับคุณจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เพศ ระดับกิจกรรม และเป้าหมายด้านสุขภาพ ปรึกษาแพทย์หรือโภชนากรเพื่อหาน้ำหนักคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมสำหรับคุณ

ตัวอย่างอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน:

  • ข้าวกล้อง
  • ขนมปังโฮลวีต
  • ข้าวโอ๊ต
  • ถั่ว
  • เลนทิล
  • ผักใบเขียว
  • ผลไม้

ตัวอย่างอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการ:

  • ขนมปังขาว
  • ข้าวขาว
  • น้ำอัดลม
  • ขนมหวาน
  • คุกกี้
  • เค้ก
  • พิซซ่า

สรุป: การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต, เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และจำกัดคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

  • น้ำช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยให้ไตของคุณขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
  • การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
  • วิธีการ:
    • ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาล throughout the day
    • เลือกน้ำ over sugary drinks like soda and juice
    • พกขวดน้ำติดตัวไปด้วยเพื่อให้คุณสามารถจิบได้ตลอดทั้งวัน
    • ดื่มน้ำก่อนและหลังออกกำลังกาย

สรุป: การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยให้ไตขับน้ำตาลส่วนเกิน

4. จัดการความเครียด

ความเครียดสามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด

  • เมื่อคุณเครียด ร่างกายของคุณจะปล่อยฮอร์โมน เช่น คอร์ติซอล ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
  • การจัดการความเครียดสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • วิธีการ:
    • ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย:
      • การหายใจลึก ๆ
      • โยคะ
      • การนั่งสมาธิ
    • ทำกิจกรรมที่คุณชอบ:
      • อ่านหนังสือ
      • ฟังเพลง
      • ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ:
      • นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
      • กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้สม่ำเสมอ
      • สร้างบรรยากาศการนอนหลับที่ดี
    • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต:
      • หากรู้สึกเครียด
      • หาวิธีจัดการความเครียดเพิ่มเติม

สรุป: การจัดการความเครียดช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย, ทำกิจกรรมที่ชอบ, นอนหลับพักผ่อน, ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

5. ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำสามารถช่วยให้คุณติดตามและจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้ คุณสามารถตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดได้ที่บ้านด้วยเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลปลายนิ้ว ปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับความถี่ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด

วิธีการ:

  • ซื้อเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลปลายนิ้วจากร้านขายยา
  • ล้างมือและปลายนิ้วของคุณให้สะอาด
  • ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของคุณตามคำแนะนำของแพทย์
  • บันทึกผลการตรวจวัดของคุณ

สรุป: ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำช่วยติดตามและจัดการระดับน้ำตาล ใช้เครื่องตรวจวัดปลายนิ้ว, ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความถี่

6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอสามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด การนอนหลับไม่เพียงพอจะเพิ่มฮอร์โมนความเครียด cortisol ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

วิธีการ:

  • นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้สม่ำเสมอ
  • สร้างบรรยากาศการนอนหลับที่ดี
  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ไม่ควรใกล้เวลานอน

สรุป: นอนหลับพักผ่อนช่วยควบคุมระดับน้ำตาล นอน 7-8 ชั่วโมง, กำหนดเวลา, สร้างบรรยากาศ, หลีกเลี่ยงคาเฟอีน

7. รับประทานอาหารที่มีโครเมียมและแมกนีเซียมสูง

มีการเชื่อมโยงระดับน้ำตาลในเลือดสูงและโรคเบาหวานเข้ากับการขาดสารอาหารรอง ตัวอย่าง ได้แก่ การขาดโครเมียมและแมกนีเซียม

โครเมียม มีส่วนร่วมในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน รวมทั้งอาจช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน ซึ่งจะช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อาหารที่อุดมด้วยโครเมียมได้แก่:

  • เนื้อสัตว์
  • ผักใบเขียว
  • ถั่ว

แมกนีเซียม ยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้อย่างมีนัยสำคัญ

อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมได้แก่:

  • ผักใบเขียวเข้ม
  • เมล็ดฟักทอง
  • ปลาทูน่า
  • ดาร์กช็อกโกแลต
  • อโวคาโด

8. พิจารณารับประทานอาหารหลากหลายประเภท

อาหารและพืชหลายชนิดทราบกันดีว่ามีสรรพคุณทางยา อาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต้านเบาหวานได้แก่:

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์: งานวิจัยก่อนหน้านี้ระบุว่าส่วนผสมนี้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยชะลอการล้างกระเพาะอาหารหลังรับประทานอาหาร

วิธีการ:

  • ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 แก้ว
  • ดื่มก่อนมื้ออาหาร

หมายเหตุ:

  • ปรึกษาแพทย์หากคุณใช้ยาใด ๆ
  • ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี

อบเชย: เครื่องเทศนี้อาจช่วยปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือดโดยเพิ่มความไวต่ออินซูลินและชะลอการสลายคาร์โบไฮเดรตในทางเดินอาหารของคุณ ซึ่งช่วยลดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร

วิธีการ:

  • โรยอบเชยลงบนอาหารของคุณ เช่น โยเกิร์ต ข้าวโอ๊ต หรือผลไม้
  • ผสมอบเชยลงในชาหรือกาแฟของคุณ

หมายเหตุ:

  • ปรึกษาแพทย์หากคุณใช้ยาใด ๆ
  • การใช้ในปริมาณมากอาจส่งผลต่อตับ

เมล็ดลูกซัด: เมล็ดเหล่านี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากมีปริมาณไฟเบอร์สูง ซึ่งชะลอการล้างกระเพาะอาหารและป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น

วิธีการ:

  • ผสมเมล็ดลูกซัดบด 1 ช้อนชาลงในน้ำหรือโยเกิร์ต
  • โรยเมล็ดลูกซัดบดบนสลัดหรือซุป

หมายเหตุ:

  • เริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยและค่อยๆ เพิ่มขึ้น
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการท้องผูก

9. รักษาให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ดี

การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดีส่งเสริมระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีต่อสุขภาพและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักเพียง 5% ก็สามารถปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณได้

10. ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์

โปรไบโอติกส์เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงการปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานโปรไบโอติกส์อาจลดระดับน้ำตาลในเลือด HbA1c และดื้อต่ออินซูลินในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2

อาหารที่มีโปรไบโอติกส์ ได้แก่:

  • โยเกิร์ตกรีก
  • คีเฟอร์
  • เทมเป้
  • ซาวร์คราุต
  • กิมจิ

หมายเหตุ:

  • เลือกอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ที่มีชีวิตอยู่
  • ปรึกษาแพทย์หากคุณมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

สรุป:

  • ทานอาหารหลากหลาย
  • เลือกอาหารที่มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดี
  • ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์

อย่าให้เบาหวานขัดขวางชีวิตของคุณ

โรคเบาหวานเป็นภาวะสุขภาพที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตถือเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการระดับน้ำตาลในเลือด โดยการทำตามเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อที่ง่ายดายและมีหลักฐานยืนยันนี้ คุณจะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมไปกับสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น

การทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อสุขภาพของคุณได้ การเปลี่ยนแปลงอาหารและการออกกำลังกายเพียงไม่กี่อย่างสามารถช่วยให้คุณสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืนในการควบคุมโรคเบาหวาน และรู้สึกดีขึ้นในแต่ละวัน

หมายเหตุ: สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์เสมอก่อนทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอาหารหรือการออกกำลังกายของคุณ แพทย์สามารถแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของคุณ

หากคุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแบ่งปันให้เพื่อน ๆ และครอบครัวที่อาจได้รับประโยชน์จากคำแนะนำนี้

Call to Action คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือไม่? คุณมีเคล็ดลับอะไรที่ช่วยให้คุณรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ? แบ่งปันคำถามและข้อแนะนำในความคิดเห็นด้านล่าง!


คำถามที่พบบ่อย

Q: เบาหวานคืออะไร? มีอันตรายแค่ไหน?

*A: เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยไว้ไม่รักษา เบาหวานสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ เช่น โรคไต, โรคหัวใจ, หลอดเลือดสมองตีบ, การสูญเสียการมองเห็น, แผลเรื้อรัง, และอาจถึงขั้นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้

Q: ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่?

*A: ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน ได้แก่ อายุ 45 ปีขึ้นไป, มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน, โรคอ้วน, ไม่ออกกำลังกาย, รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันมากเกินไป เป็นต้น หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

Q: ฉันสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างไร?

*A: มีหลายวิธีในการลดน้ำตาลในเลือดอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น การควบคุมอาหาร การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับคนเป็นเบาหวาน, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การจัดการความเครียด, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และการรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ดีต่อสุขภาพ

Q: หากฉันเป็นเบาหวาน กินอะไรได้บ้าง?

*A: แม้ว่าคุณเป็นเบาหวาน ก็ยังสามารถทานอาหารอร่อยๆ ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำและใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง, ผัก, ผลไม้, ถั่ว, และธัญพืชต่างๆ ควรจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง และแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ทานตลอดทั้งวัน

Q: การออกกำลังกายช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างไร?

*A: การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินให้กับร่างกาย ทำให้เซลล์ต่างๆ สามารถใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนแต่มีผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด

Q: มีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้โดยเฉพาะ?

*A: อาหารที่มีประโยชน์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ อบเชย, เมล็ดลูกซัด, กระเทียม, ขมิ้น, แอปเปิ้ลไซเดอร์ วีนีการ์

Q: โรคเบาหวานสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?

*A: ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคเบาหวานให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และป้องกันโรคแทรกซ้อนได้

Q: ฉันควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดบ่อยแค่ไหน?

*A: ความถี่ในการตรวจวัดน้ำตาลขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของโรคเบาหวานที่คุณเป็น และยาที่คุณใช้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจวัดระดับน้ำตาลที่เหมาะสมสำหรับคุณ

Facebook
Twitter

หัวข้อบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ของโรคต่างๆ กับการ IF
043196

ความสัมพันธ์ของโรคต่างๆ กับการ IF

จากการที่ผมนั่งไล่อ่านคอมเม้นเกี่ยวกับทำไมเราถึงล้มเหลวในการ Fasting เมื่อวันก่อนดู…

การทำ IF - รูปภาพ
036437

10 ประโยชน์จากการ IF

1.เรารู้หรือไหมว่าระบบ Fasting มีมาตั้งแต่สมัยยุคหินโบราณ…

ผู้ร้ายตัวจริงที่ชื่อว่า”น้ำตาล”
025944

ผู้ร้ายตัวจริงที่ชื่อว่า”น้ำตาล”

หรือน้ำตาลนั้นคือผู้ร้ายตัวจริง? “น้ำตาล” เรารู้จักสิ่งนี้มากแค่ไหนกัน…

โอเมก้า 6 คืออะไร
019665

โอเมก้า 6 คืออะไร

ผมคิดว่าทุกคนคงทราบกันดีแล้วว่า Omega-6 นั้นสัมพันธ์กับการอักเสบ…

อาการของเบาหวาน
019303

อาการของเบาหวาน

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราหรือคนที่เรารักเป็นเบาหวาน?     1.ข้อแรกคือ…

อ่านบทความเพิ่มเติม